วันอังคารที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

บ้านของ บิล เกตส์

ไฟล์:Bill gates' house.jpg

บ้านของบิล เกตส์ เป็นคฤหาสน์ขนาดใหญ่ในด้านข้างของเนินเขาที่สามารถมองเห็นทะเลสาบวอชิงตัน ซึ่งอยู่ในเมืองเมดินา รัฐวอชิงตัน โดยบ้านขนาด 66,000 ตารางฟุต (6,100 ตารางเมตร) ได้มีการระบุว่ามีการออกแบบพิเศษและใช้เทคโนโลยีร่วมประกอบด้วย และบ้านหลังนี้มีชื่อเรียกกันเล่นๆว่า ซานาดู2.0[1]
ในปี ค.ศ. 2002 ได้มีการรายงานถึงภาษีอสังหาริมทรัพย์นี้อยู่ที่ 1.063 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากการประเมินรวมมูลค่า 147.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ[2]

เนื้อหา

  [ซ่อน

[แก้]รายละเอียด

บ้านหลังนี้มีการออกแบบที่ทันสมัยโดยเป็นรูปแบบบ้านสไตล์กระท่อมของชาวแปซิฟิกที่มีชื่อเรียกรูปแบบนี้ว่าแปซิฟิกลอดจ์ ซึ่งประกอบด้วยลักษณะแบบคลาสสิกอย่างเช่นห้องสมุดส่วนตัวขนาดใหญ่ทีมีหลังคารูปโดมและช่องให้แสงสว่างผ่านกลางหลังคาที่มีชื่อเรียกว่าโอคูลัส[3] บ้านหลังนี้ยังมีลักษณะระบบเซิร์ฟเวอร์สำหรับอสังหาขนาดกว้าง ซึ่งใช้งานจากระบบวินโดวส์ รวมไปจนถึงพื้นปรับอุณหภูมิ และถนนสำหรับรถแล่นผ่าน แขกผู้มาเยือนจะได้รับไมโครชิปติดไว้กับตัวเมื่อมาถึงทางเข้าของห้อง ซึ่งมีการปรับอุณหภูมิ, ดนตรี และแสงสว่างโดยอัตโนมัติจากการตั้งค่าของแขกผู้มาเยือน ตามคำบรรยายที่เสมือนการออกทัศนาจร
เกตส์และเมลินดาผู้เป็นภรรยาต่างชื่นชอบนวนิยายเรื่องรักเธอสุดที่รักของเอฟ. สกอตต์ ฟิตซ์เจอรัลด์เป็นอย่างมาก เนื่องจากเสมือนมีการบันทึกถึงพวกเขาไว้ในห้องสมุด จากหน้าสุดท้ายของนวนิยาย:
"เขาได้มาสู่สนามหญ้าสีฟ้าที่เป็นทางยาว และความฝันของเขาต้องดูเหมือนกับอยู่ใกล้ให้ประจักษ์ โดยที่แทบจะไม่พลาดพลั้งในการเข้าใจถึงสิ่งนี้"[4]

[แก้]ดูเพิ่ม

[แก้]อ้างอิง

  1. ^ Folkers, Richard (1997-11-23). "Bill Gates's stately pleasure dome and futuristic home".http://www.usnews.com/usnews/culture/articles/971201/archive_008409_2.htm.
  2. ^ Anderson, Rick (2008-05-16). "Taxman Cometh". Seattle Weekly.http://www.seattleweekly.com/news/blogs/dailyweekly/2008/05/gates_taxman_cometh.php.
  3. ^ US News (2007). Pool building. Part of a U.S. News feature on the house. Retrieved on 2007-10-04 fromhttp://www.usnews.com/usnews/tech/billgate/gates.htm and http://www.usnews.com/usnews/tech/billgate/room1a.htm.
  4. ^ Paterson, Thane. "Advice for Bill Gates: A Little Culture Wouldn't Hurt", 'Business Week', 2000-06-13. สืบค้นวันที่ 2008-03-21

[แก้]แหล่งข้อมูลอื่น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น